ตำรวจไทย–กัมพูชา จับมือปราบสแกมเมอร์และค้ามนุษย์

เมื่อวันที่ 16 กันยายน เวลา 20.15 น. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ได้เข้าร่วมประชุมร่วมกับ พล.ต.ท.เซียง ซาริด รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกัมพูชา และคณะ เผื่อหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหา อาชญากรรมทางเทคโนโลยี และ แก๊งสแกมเมอร์ ที่หลอกลวงประชาชนชาวไทย

ตำรวจไทย–กัมพูชา จับมือปราบสแกมเมอร์และค้ามนุษย์

การประชุมครั้งนี้เป็นการต่อเนื่องจากการประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่เกาะกง ประเทศกัมพูชา เพื่อหารือแนวทางหลักในการแก้ปัญหา คอลเซนเตอร์ลักลอบ ที่ตั้งอยู่ในดินแดนกัมพูชา และเป็นภัยต่อประชาชนไทย โดย双方ตกลงจะดำเนินการร่วมกันผ่านแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ที่จะประกาศภายในสิ้นเดือนนี้

ความร่วมมือภาคพื้นที่

ด้านประเทศไทยจะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่แนวชายแดน เช่น ปอยเปต และจังหวัดบันเตียเมียนเจย เพื่อตรวจสอบและปิดฐานคอลเซนเตอร์ที่อาจยังคงดำเนินกิจกรรมอยู่ โดยจะใช้ข้อมูลจากการแจ้งความออนไลน์เกี่ยวกับการหลอกลวงและการค้ามนุษย์เป็นข้อมูลหลักในการตรวจสอบ

พล.ต.อ.ธัชชัย เปิดเผยว่า การประชุมใช้เวลานานกว่า 10 ชั่วโมง เนื่องจากต้องจัดทำเอกสารให้ถูกต้องทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาเขมรก่อนนำไปเสนอที่ประชุม JBC ในครั้งถัดไป ทั้งนี้ ฝ่ายกัมพูชายืนยันว่าจะร่วมมืออย่างเต็มที่ในการปราบปราม สแกมเมอร์และค้ามนุษย์ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชาวไทยอย่างต่อเนื่อง

ในขณะเดียวกัน พลตรี สุรวิทย์ แดงจันทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 เปิดเผยเพิ่มเติมว่า หลังการประชุมได้มีการตรวจสอบข้อมูลคลิปปลอมบนโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นคลิปที่ถูกตัดต่อจากเหตุการณ์จริงเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยยืนยันว่าஇնформацияดังกล่าวเป็นข้อมูลที่บิดเบือน มีจุดประสงค์ในการปลุกระดมความตื่นตระหนกกับประชาชนของทั้งสองประเทศ

  • การประชุมเพื่อแก้ไข อาชญากรรมทางเทคโนโลยี ร่วมกับฝ่ายกัมพูชา
  • การติดตามฐานคอลเซนเตอร์ในพื้นที่แนวชายแดน
  • การใช้ข้อมูลจากการร้องเรียนออนไลน์เพื่อป้องกันเหตุการณ์ในอนาคต

ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 1 จะยังคงติดตามและผลักดันการร่วมมือในข้อตกลง GBC โดยเฉพาะเรื่องการเก็บกู้วัตถุระเบิดในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว การแก้ปัญหาพื้นที่บ้านหนองจาน และการจัดตั้งคณะทำงานในระดับอำเภอ เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพและเข้าถึงได้จริง

การร่วมมืออย่างต่อเนื่องระหว่างไทยและกัมพูชานี้ เป็นสัญญาณที่ดีในการลดปัญหาอาชญากรรม และความเสียหายที่เกิดกับคนไทยจากอาชญากรรมไซเบอร์และสแกมในพื้นที่ต่างดินแดน โดยจะทำให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ที่มา – ตำรวจไทย–กัมพูชา จับมือปราบสแกมเมอร์และค้ามนุษย์ ยืนยันความเสียหายต่อคนไทยลดลง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *