ฟิลิปปินส์อ่วม! ไต้ฝุ่น “คัลแมกี” ดับ 40 ศพ

สถานการณ์ในฟิลิปปินส์น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง หลังเผชิญกับความรุนแรงของไต้ฝุ่น “คัลแมกี” สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากอิทธิพลของไต้ฝุ่น “คัลแมกี” ที่พัดถล่มหมู่เกาะวิซายัส ทางตอนกลางของประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 44 รายแล้ว โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 39 รายอยู่ในจังหวัดเซบู ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กำลังฟื้นตัวจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.9 แมกนิจูดเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ประชาชนมากกว่า 400,000 คนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามเส้นทางพายุ ได้อพยพออกจากบ้านเรือนเพื่อความปลอดภัย สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติฟิลิปปินส์รายงานว่า ไต้ฝุ่น “คัลแมกี” อ่อนกำลังลงเล็กน้อย โดยมีความเร็วลม 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และลมกระโชกแรง 165 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ประชาชนอพยพหนีน้ำท่วมจากไต้ฝุ่นคัลแมกี
ประชาชนที่เมืองมันเดา ในจังหวัดเซบูของฟิลิปปินส์ อพยพออกจากบ้านเรือน ท่ามกลางน้ำท่วม ซึ่งเป็นอิทธิพลจากไต้ฝุ่น “คัลแมกี”

กองทัพฟิลิปปินส์ยืนยันว่า เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งจากสี่ลำที่ถูกส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากไต้ฝุ่น “คัลแมกี” ประสบอุบัติเหตุตกที่เกาะมินดาเนาทางตอนเหนือ ส่งผลให้ลูกเรือเสียชีวิตทั้ง 6 ราย นับเป็นความสูญเสียที่ซ้ำเติมสถานการณ์ที่ยากลำบากอยู่แล้ว

ไต้ฝุ่น “คัลแมกี”: วิกฤตซ้ำเติมฟิลิปปินส์

ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่เผชิญกับพายุเฉลี่ย 20 ลูกต่อปี แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศระบุว่า การมาถึงของไต้ฝุ่น “คัลแมกี” ถือเป็นสถิติที่เกินค่าเฉลี่ยรายปี และคาดการณ์ว่าจะมีพายุอีกอย่างน้อย 3-5 ลูกพัดเข้าประเทศจนถึงสิ้นเดือนธันวาคมนี้

ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

นักวิทยาศาสตร์ชี้ให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ ส่งผลให้มหาสมุทรมีอุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้พายุทวีความรุนแรงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ชั้นบรรยากาศที่อุ่นขึ้นยังสามารถกักเก็บความชื้นได้มากขึ้น ทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมรุนแรง

สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง: ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรงขึ้นในฟิลิปปินส์เป็นสัญญาณเตือนถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ชัดเจน การรับมือกับภัยพิบัติและการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับฟิลิปปินส์และประเทศอื่นๆ ทั่วโลกที่กำลังเผชิญกับความท้าทายเดียวกัน

ประเทศไทยเองก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเช่นกัน การวางแผนป้องกัน การสร้างความตระหนักรู้ และการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อลดความเสียหายและปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

ที่มา – ไต้ฝุ่น “คัลแมกี” ถล่มฟิลิปปินส์อ่วมหนัก ผู้เสียชีวิตพุ่งกว่า 40 ราย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *