คลิกเดียวหาย 1.2 ล้าน! ไซเบอร์จับแก๊งสแกมเมอร์
เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ คล้ายคลึง รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล ผกก.1 บก.สอท.5 แถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายหลอกติดตั้งแอปดูดเงิน และสามารถอายัดเงินได้ทัน 3.6 แสนบาท เตรียมนำคืนผู้เสียหาย คดี คลิกเดียวหาย 1.2 ล้าน! ไซเบอร์จับแก๊งสแกมเมอร์ นี้สร้างความเสียหายอย่างมากและเป็นภัยต่อสังคม

พล.ต.ต.ศิลา กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.สอท.5 สืบสวนขยายผลจากกรณีที่มีผู้เสียหายในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ถูกแก๊งสแกมเมอร์อ้างตัวเป็นบริษัทพัสดุหลอกลวงให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมแล้วกรอกข้อมูลส่วนตัว จากนั้นคนร้ายได้เข้าควบคุมโทรศัพท์และทำการโอนเงินของผู้เสียหายออกจากแอปพลิเคชันธนาคารหรือ Mobile Banking ทุกบัญชี จนสูญเงิน 1,262,969 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวนเส้นทางการเงิน พบว่าเมื่อแก๊งสแกมเมอร์ดังกล่าวควบคุมโทรศัพท์ผู้เสียหายได้แล้ว ได้โอนเงินของผู้เสียหายไปยังบัญชีธนาคารต่างๆ รวมทั้งกระเป๋าเงินดิจิทัลของแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่เตรียมไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ โดยมีลักษณะการกระทำที่เป็นเครือข่ายหรือขบวนการ มีการแบ่งแยกหน้าที่กันชัดเจน มีทั้งกลุ่มที่ทำหน้าที่หลอกลวง กลุ่มที่ทำหน้าที่จัดหาบัญชี กลุ่มที่ทำหน้าที่ถอนเงินในทันทีเมื่อมีเงินของผู้เสียหายโอนเข้ามาเพื่อป้องกันการถูกอายัดบัญชี

พ.ต.อ.กฤษดา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดภูเก็ต ออกหมายจับเครือข่ายผู้ต้องหาไว้ 5 ราย 1.นายพงค์ภัค อายุ 30 ปี 2.น.ส.ธัญญารัตน์ อายุ 38 ปี 3.นายนันทิน อายุ 22 ปี 4. นายมนัสชัย อายุ 23 ปี แบ่งเป็นในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร 1 ราย และ จ.เชียงราย 4 ราย

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว จำนวน 4 ราย โดยผู้ต้องหาให้การ ว่า ได้รับการว่าจ้างจากแก๊งสแกมเมอร์เพื่อใช้บัญชีธนาคารเป็นบัญชีรับเงินและถอนเงิน โดยแก๊งสแกมเมอร์ จะแจ้งให้ไปรออยู่ที่บริเวณหน้าธนาคาร หรือหน้าตู้ ATM จากนั้นเมื่อมีเงินโอนเข้ามาก็จะได้รับคำสั่งให้ถอนเงินสดออกมาในทันที โดยได้รับค่าตอบแทน ร้อยละ 4 ของยอดเงินที่โอนเข้า ขณะนี้เจ้าน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ โดยจากปฏิบัติการนี้สามารถติดตามอายัดเงินได้จำนวน 362,293.27 บาท และจะได้นำคืนให้แก่ผู้เสียหายต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา ร่วมกันหรือสนับสนุนการฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นโดยทุจริต เพื่อหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ และร่วมกันหรือสนับสนุนในการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด จึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย.
คลิกเดียวหาย 1.2 ล้าน! ไซเบอร์จับแก๊งสแกมเมอร์
คดี คลิกเดียวหาย 1.2 ล้าน! ไซเบอร์จับแก๊งสแกมเมอร์ เป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้ประชาชนระมัดระวังในการติดตั้งแอปพลิเคชันต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอปพลิเคชันที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือมีการขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป นอกจากนี้ ควรตรวจสอบข้อมูลและแหล่งที่มาของแอปพลิเคชันให้ละเอียดก่อนทำการติดตั้ง เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
วิธีป้องกันภัยจากแก๊งสแกมเมอร์
- อย่าหลงเชื่อใครง่าย ๆ หากมีคนอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ
- ตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนที่จะให้ข้อมูลส่วนตัว
- ติดตั้งแอปพลิเคชันจากแหล่งที่น่าเชื่อถือเท่านั้น
- ตั้งรหัสผ่านที่คาดเดาได้ยาก และเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ
- เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนแบบสองปัจจัย (Two-Factor Authentication)
หากท่านตกเป็นเหยื่อของแก๊งสแกมเมอร์ ควรรีบแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสืบสวนและจับกุมคนร้ายมาลงโทษ
คลิกเดียวหาย 1.2 ล้าน! ไซเบอร์จับแก๊งสแกมเมอร์ เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราต้องระวัง อย่าประมาทในการใช้งานโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ต เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมทางไซเบอร์
ที่มา – คลิกเดียวหาย 1.2 ล้าน! ไซเบอร์จับแก๊งสแกมเมอร์ อายัดทัน 3.6 แสน เตรียมคืนเหยื่อ


