“ธรรมนัส” นำทีมสักการะกระทรวงเกษตร ลั่นราคาเกษตรขึ้น 3 เดือน

ในวันที่ 29 กันยายน 2567 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้นำทีมผู้บริหารและข้าราชการ เดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถือเป็นกิจกรรมเปิดตัวที่เต็มไปด้วยความศรัทธาและความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนงานด้านการเกษตรของประเทศ โดยมีนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ และนายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมด้วย กิจกรรมนี้จัดขึ้นในเวลา 09.00 น. ตามฤกษ์ที่เหมาะสม เพื่อขอพรและเสริมสิริมงคลให้กับการทำงาน

ธรรมนัส สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์

“ธรรมนัส” นำทีมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กระทรวงเกษตรฯ ลั่นขยับราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้นใน 3 เดือน

หลังจากพิธีสักการะเสร็จสิ้น ร.อ.ธรรมนัส ได้กล่าวถึงนโยบายเร่งด่วนที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะขับเคลื่อนทันที โดยมุ่งแก้ไขปัญหาหลักๆ ที่เกษตรกรไทยกำลังเผชิญอยู่ ไม่ว่าจะเป็นราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำ ต้นทุนการผลิตที่สูงลิ่ว รวมถึงผลกระทบจากนโยบายภาษีของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคเกษตร นอกจากนี้ยังมีปัญหาความไม่สงบตามแนวชายแดนที่กระทบต่อการค้าขายและการขนส่งสินค้าเกษตร

หนึ่งในมาตรการสำคัญคือการประกาศสงครามกับสินค้าเกษตรเถื่อน โดยจะเพิ่มความเข้มข้นในการปราบปราม ผ่านการปรับโฉมหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช ด้วยการใช้บุคลากรมืออาชีพ และบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

แนวทางการแก้ปัญหาสถานการณ์น้ำและน้ำท่วม

สำหรับสถานการณ์น้ำ ร.อ.ธรรมนัส ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบลุ่มน้ำเจ้าพระยาแล้ว รวมถึงเขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนพระราม 6 โดยสั่งการให้กรมชลประทานเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพายุบัวลอยที่กำลังเข้าใกล้ประเทศไทยในวันนี้ นอกจากนี้ ยังวางแผนระยะยาวเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ตั้งแต่ต้นน้ำในภาคเหนือ เช่น จังหวัดพะเยา แพร่ สุโขทัย พิจิตร และตราด โดยจะหารือกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เพื่อบริหารจัดการน้ำภาพรวมทั้งประเทศ รวมถึงปรับปรุงระเบียบการระบายน้ำให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ธรรมนัส ตรวจสถานการณ์น้ำ

ปัญหายางพาราราคาตกต่ำเป็นอีกประเด็นที่ได้รับความสนใจ โดยในวันที่ 2 ตุลาคม 2568 จะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกันระหว่าง 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ผ่านการยางแห่งประเทศไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา เพื่อส่งเสริมการใช้ยางพาราภายในประเทศ นอกจากนี้ ยังมีมาตรการขยายตลาดต่างประเทศ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร โดยตั้งเป้าหมายให้ “ธรรมนัส” นำทีมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กระทรวงเกษตรฯ ลั่นขยับราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้นใน 3 เดือน ตามที่ได้ประกาศไว้

ผลกระทบและโอกาสสำหรับเกษตรกร

นโยบายเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ยังมุ่งสร้างความยั่งยืนให้กับภาคเกษตรในระยะยาว เกษตรกรหลายรายต่างคาดหวังว่าราคาสินค้าเกษตรจะปรับตัวสูงขึ้นจริง ภายในกรอบเวลา 3 เดือนตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้คำมั่น โดยเฉพาะยางพาราที่เป็นพืชเศรษฐกิจหลักของไทย

  • แก้ราคาตกต่ำ: ผ่านการขยายตลาดและส่งเสริมการใช้ภายใน
  • ลดต้นทุน: บูรณาการแก้ปัญหาภาษีและชายแดน
  • จัดการน้ำ: แผนระยะยาวป้องกันน้ำท่วม
  • ปราบสินค้าเถื่อน: เพิ่มมาตรการเข้มงวด

การที่ “ธรรมนัส” นำทีมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กระทรวงเกษตรฯ ลั่นขยับราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้นใน 3 เดือน ถือเป็นสัญญาณบวกสำหรับเกษตรกรทั่วประเทศ ผู้ประกอบการควรติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด หากคุณเป็นเกษตรกรหรือสนใจภาคเกษตร ลองแบ่งปันความคิดเห็นในคอมเมนต์ด้านล่าง เพื่อให้เราได้แลกเปลี่ยนมุมมองกันต่อไป

สุดท้ายนี้ การขับเคลื่อนนโยบายเหล่านี้จะช่วยยกระดับรายได้เกษตรกรได้จริง หากมีการบูรณาการที่ดีระหว่างหน่วยงานรัฐและภาคเอกชน

ที่มา – “ธรรมนัส” นำทีมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กระทรวงเกษตรฯ ลั่นขยับราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้นใน 3 เดือน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *