รองผู้ว่าราชการอยุธยาติดตามน้ำท่วมบางไทร

ในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา พื้นที่หลายจังหวัดในภาคกลางของไทยต้องเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมขังที่รุนแรง โดยเฉพาะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ล่าสุด รองพ่อเมืองอยุธยา ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย อ.บางไทร พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชน เพื่อให้ความมั่นใจแก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ

รองพ่อเมืองอยุธยา ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย อ.บางไทร พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชน

นายประพันธ์ ตรีบุบผา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้นำทีมลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำท่วมที่ตำบลบ้านกลึง อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีนางปวีณา ทองสกุลพันธ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมลงพื้นที่ด้วย นอกจากนี้ยังมีนายไชยา เจริญยิ่ง นายอำเภอบางไทร นายประดิษฐ์ ไวยทรัพย์ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลึง พร้อมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ มาร่วมติดตามและให้การช่วยเหลือ

จากข้อมูลล่าสุด พบว่ามีประชาชนในตำบลบ้านกลึง อำเภอบางไทร ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยรวม 189 ครัวเรือน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมขัง ส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ลำบาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแจกจ่ายถุงยังชีพ อาหารแห้ง และสิ่งของจำเป็น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านในเบื้องต้น

การบริหารจัดการน้ำจากกรมชลประทาน

รองพ่อเมืองอยุธยา ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย อ.บางไทร พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชน ได้กล่าวถึงการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน ซึ่งกำลังติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิด ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ยังคงระบายน้ำต่อเนื่องที่ระดับ 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อรองรับปริมาณน้ำจากตอนบนและฝนที่ตกหนักในช่วงนี้

นอกจากนี้ เขื่อนพระรามหก ก็มีการระบายน้ำที่ 578 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนวัดสะตือ ตำบลท่าหลวง และเขตเทศบาลตำบลท่าเรือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรมชลประทานได้บริหารจัดการโดยการระบายน้ำเข้าคลองระพีพัฒน์ เพื่อควบคุมระดับน้ำเหนือเขื่อนให้เหมาะสม และลดผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

สถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้เกิดจากปัจจัยหลายประการ ทั้งปริมาณฝนที่มากผิดปกติและการจัดการน้ำจากเขื่อนใหญ่ การลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ติดตามสถานการณ์เท่านั้น แต่ยังเป็นการประสานงานระหว่างหน่วยงานท้องถิ่นและส่วนกลาง เพื่อหาแนวทางแก้ไขที่ยั่งยืน

คำแนะนำสำหรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง

เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอให้ประชาชนเฝ้าระวังและติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ต่ำที่เสี่ยงต่อน้ำท่วม นี่คือคำแนะนำสำคัญ:

• ยกของขึ้นที่สูง: จัดเรียงทรัพย์สินที่มีค่าขึ้นสู่ที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันน้ำท่วมทำลาย
• ติดตามข่าวสาร: ฟังประกาศจากหอกระจายข่าวในหมู่บ้านหรือผ่านสื่อต่าง ๆ
• เตรียมพร้อมอพยพ: เตรียมเสบียงอาหาร น้ำดื่ม และเอกสารสำคัญ หากน้ำเพิ่มสูง
• หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง: อย่าข้ามคลองหรือทางน้ำที่ไหลเชี่ยว

หากประชาชนพบปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หรือโทรสายด่วน 1111

การลงพื้นที่ติดตามครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของภาครัฐในการดูแลประชาชนท่ามกลางภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะในจังหวัดอยุธยาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานแต่ยังคงเผชิญปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ในมุมมองของผู้เขียน การบริหารจัดการน้ำที่ยั่งยืนต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เพื่อลดผลกระทบในอนาคต หากคุณอยู่ในพื้นที่เสี่ยง อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมและติดตามข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและครอบครัว

ที่มา – รองพ่อเมืองอยุธยา ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย อ.บางไทร พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชน