อ.เจษฎา เฉลย! เสื้อเกราะกันกระสุนมีวันหมดอายุจริงหรือไม่?
หลายคนอาจสงสัยว่า เสื้อเกราะกันกระสุนมีวันหมดอายุจริงหรือไม่? ล่าสุด รองศาสตราจารย์ เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว Jessada Denduangboripant โดยระบุว่า เสื้อเกราะกันกระสุนมีวันหมดอายุจริง และมีอายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับวัสดุและการดูแลรักษา
อ.เจษฎา อธิบายว่า วัสดุที่ใช้ทำเสื้อเกราะกันกระสุนมีหลากหลายชนิด แต่ละชนิดก็มีอายุการใช้งานที่แตกต่างกันไปตามอัตราการเสื่อมสภาพและวิธีการจัดเก็บรักษา เสื้อเกราะกันกระสุนถูกออกแบบมาเพื่อดูดซับและกระจายพลังงานจากกระสุน เพื่อป้องกันอันตรายให้แก่ผู้สวมใส่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประสิทธิภาพของเสื้อเกราะขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ผลิต ซึ่งโดยทั่วไปมีดังนี้:
- ไฟเบอร์เคฟลาร์/อารามิด: เส้นใยสังเคราะห์ที่แข็งแรง ทักทอเป็นผ้าที่สามารถหยุดกระสุนได้ เคฟลาร์ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรงและความทนทานสูง
- โพลีเอทิลีน โมเลกุลน้ำหนักสูงพิเศษ (UHMWPE): วัสดุน้ำหนักเบา ทนทานต่อการขีดข่วนและแรงกระแทก
- แผ่นเหล็กและเซรามิก: มักใช้เสริมในเสื้อเกราะเพื่อป้องกันกระสุนความเร็วสูง แผ่นเหล็กทนทานแต่มีน้ำหนักมาก ในขณะที่แผ่นเซรามิกเบากว่าแต่เสี่ยงต่อการแตกหัก
วัสดุแต่ละชนิดมีอายุการใช้งานและอัตราการเสื่อมสภาพที่แตกต่างกัน ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่างๆ โดยทั่วไป เสื้อเกราะกันกระสุนมีวันหมดอายุจริง และมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ดังนี้:
- 5 ปี: ผู้ผลิตส่วนใหญ่แนะนำให้เปลี่ยนเกราะกันกระสุนทุกๆ 5 ปี เนื่องจากผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าวัสดุจะเสื่อมสภาพตามเวลา
- 10 ปี: วัสดุขั้นสูงบางประเภท เช่น UHMWPE อาจมีอายุการใช้งานใกล้เคียง 10 ปี หากได้รับการบำรุงรักษาและเก็บรักษาอย่างเหมาะสม
เสื้อเกราะกันกระสุนมีวันหมดอายุจริงหรือไม่?
ปัจจัยที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานของเสื้อเกราะ:
- วัสดุ: ชนิดของวัสดุมีผลต่อความทนทานของเสื้อเกราะ เคฟลาร์เสื่อมสภาพช้ากว่า แต่อาจสูญเสียประสิทธิภาพเมื่อโดนแสง UV ความร้อน และความชื้น วัสดุ UHMWPE ทนทานต่อสภาพแวดล้อมมากกว่า แต่ยังต้องดูแลอย่างระมัดระวัง
- การสึกหรอ: การใช้งานปกติอาจทำให้เกิดการขาดหรือแตก ซึ่งทำให้เสื้อเกราะอ่อนแอลง
- สภาพการเก็บรักษา: การเก็บในที่เย็นและแห้ง ห่างจากแสงแดดและความชื้น ช่วยยืดอายุการใช้งาน
- การบำรุงรักษา: การทำความสะอาดสม่ำเสมอและหลีกเลี่ยงของเหลว ช่วยรักษาสภาพเสื้อเกราะ
- ปัจจัยแวดล้อม: น้ำเกลือ สารเคมี หรือการเสียดสี อาจทำให้เส้นใยเสื่อมสภาพ
ความร้อนสูงอาจทำให้เคฟลาร์เปราะ ในขณะที่อุณหภูมิต่ำมากอาจลดความยืดหยุ่นของไฟเบอร์ น้ำและความชื้นอาจทำให้เกิดเชื้อราที่ลดความแข็งแรงของไฟเบอร์ และแสง UV สามารถทำลายความสมบูรณ์ของไฟเบอร์ได้
ผู้ผลิตเสื้อเกราะกันกระสุนมักให้แนวทางเกี่ยวกับอายุการใช้งานตามการทดสอบและมาตรฐานที่กำหนดโดยองค์กรต่างๆ เช่น NIJ:
- เปลี่ยนทุก 5-10 ปี: แม้ว่าเสื้อเกราะอาจยังใช้งานได้หลังหมดอายุ แต่ผู้ผลิตไม่สามารถรับประกันประสิทธิภาพได้
- ตรวจสอบเป็นประจำ: ตรวจสอบเสื้อเกราะเพื่อหาสัญญาณการสึกหรอ เช่น การขาดหรือเปลี่ยนสี และควรเปลี่ยนหากพบความเสียหาย
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการบำรุงรักษาเสื้อเกราะกันกระสุน
เพื่อเพิ่มอายุการใช้งานของเสื้อเกราะ ควรพิจารณาคำแนะนำในการบำรุงรักษาดังนี้:
- การทำความสะอาดเสื้อเกราะ:
- ถอดแผงบอลลิสติกก่อนซัก
- ทำความสะอาดเฉพาะจุดด้วยผ้าชื้นและน้ำยาทำความสะอาดอ่อนๆ
- ผึ่งให้แห้งในที่ที่มีอากาศถ่ายเท
- การจัดเก็บที่เหมาะสม:
- เก็บเสื้อเกราะให้ราบเพื่อหลีกเลี่ยงการยับ
- หลีกเลี่ยงการถูกกดทับ
- การตรวจสอบการสึกหรอ:
- ตรวจสอบเสื้อเกราะเป็นประจำเพื่อหาสัญญาณความเสียหาย
- เปลี่ยนเมื่อจำเป็น
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ควรตรวจสอบ เสื้อเกราะกันกระสุนมีวันหมดอายุจริงหรือไม่ และสภาพของเสื้อเกราะอย่างสม่ำเสมอ หากพบความผิดปกติ หรือเมื่อถึงอายุการใช้งานที่กำหนด ควรเปลี่ยนเสื้อเกราะใหม่ทันที เพื่อให้มั่นใจในประสิทธิภาพการป้องกัน
ที่มา – หลายคนอาจไม่รู้ ‘อ.เจษฎา’ เฉลยแล้ว ‘เสื้อเกราะกันกระสุน’ มีวันหมดอายุจริงหรือไม่