เขื่อนภูมิพล ระบายน้ำ 4.99 ล้าน ลบ.ม./วัน

สถานการณ์น้ำโดยรวมของประเทศ ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงสูงสุดในแต่ละภาค ได้แก่ ภาคเหนือ: จังหวัดตาก (141 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดอุบลราชธานี (89 มม.) ภาคตะวันตก: จังหวัดกาญจนบุรี (50 มม.) ภาคกลาง: จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (81 มม.) ภาคตะวันออก: จังหวัดตราด (116 มม.) และภาคใต้: จังหวัดนครศรีธรรมราช (114 มม.)

ลักษณะอากาศวันนี้ ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ตอนล่าง และอ่าวไทย ในขณะที่มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางพื้นที่

คาดการณ์ว่าในช่วงวันที่ 15–16 ตุลาคม 2568 ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก อ่าวไทยตอนบน ภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และภาคใต้

สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำโดยรวม: ปริมาณน้ำรวม 86% ของความจุเก็บกัก (68,894 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 77% (44,868 ล้าน ลบ.ม.) สถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา ณ ปัจจุบัน: เขื่อนภูมิพล ระบายน้ำออกในอัตรา 4.99 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน โดยมีปริมาตรน้ำ 12,396 ล้าน ลบ.ม. (92%) น้ำไหลเข้า 39.04 ล้าน ลบ.ม. นอกจากนี้ เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาตรน้ำ 9,200 ล้าน ลบ.ม. (97%) น้ำไหลเข้า 30.85 ล้าน ลบ.ม. และระบายน้ำในอัตรา 30.00 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน

เขื่อนแควน้อยบำรุงแดนมีปริมาตรน้ำ 944 ล้าน ลบ.ม. (100%) น้ำไหลเข้า 12.45 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำในอัตรา 12.96 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาตรน้ำ 818 ล้าน ลบ.ม. (82%) น้ำไหลเข้า 38.65 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำในอัตรา 8.65 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน สถานี C.2 อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครสวรรค์ วันที่ 13 ตุลาคม 2568 เวลา 06.00 น. ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,645 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 1.47 เมตร

เขื่อนภูมิพล ระบายน้ำออกในอัตรา 4.99 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน

ทำไมเขื่อนภูมิพลถึงต้องระบายน้ำในอัตรา 4.99 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน?

การที่เขื่อนภูมิพลต้องระบายน้ำออกในอัตรา 4.99 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน มีเหตุผลสำคัญเพื่อรักษาเสถียรภาพของตัวเขื่อนเอง และเพื่อบริหารจัดการปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำให้เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝนที่มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเป็นจำนวนมาก การระบายน้ำออกอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำในอ่างเกินความจุที่กำหนด ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงที่เขื่อนจะได้รับความเสียหาย หรือเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ท้ายเขื่อนได้

นอกจากนี้ การระบายน้ำยังมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการใช้น้ำในด้านต่างๆ เช่น การเกษตร การอุปโภคบริโภค และการรักษาระบบนิเวศ การบริหารจัดการน้ำที่ดีจะต้องพิจารณาถึงความต้องการใช้น้ำในแต่ละช่วงเวลา และปรับแผนการระบายน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทุกภาคส่วน

สถานการณ์เขื่อนภูมิพล ระบายน้ำออกในอัตรา 4.99 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เป็นสถานการณ์ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ท้ายเขื่อน ควรติดตามข่าวสารและประกาศจากหน่วยงานราชการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำที่อาจเกิดขึ้น และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

หากคุณวางแผนเดินทางไปยังพื้นที่ใกล้เคียงเขื่อนภูมิพล ควรตรวจสอบสถานการณ์น้ำก่อนออกเดินทาง และหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อความปลอดภัยของคุณเองและครอบครัว

ที่มา – เขื่อนภูมิพล ระบายน้ำออกในอัตรา 4.99 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน