‘เจี๊ยบ อมรัตน์’เดือดไล่‘จุลพงศ์’ลาออกเหตุสร้างความอับอาย‘พรรคประชาชน’

ในวงการการเมืองไทยที่เต็มไปด้วยดราม่าและการต่อสู้ทางความคิด ‘เจี๊ยบ อมรัตน์’เดือดไล่‘จุลพงศ์’ลาออกเหตุสร้างความอับอาย‘พรรคประชาชน’ ได้กลายเป็นประเด็นร้อนที่สร้างความฮือฮาให้กับสาธารณชน โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดีย เมื่อนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือที่รู้จักกันในชื่อ เจี๊ยบ อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้ออกมาโพสต์ข้อความประณามนายจุลพงศ์ อยู่เกษ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน อย่างดุเดือด กรณีที่เขาทำหนังสือขออภัยโทษต่อนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย หลังจากถูกฟ้องหมิ่นประมาทจากคำอภิปรายเรื่องเขากระโดงที่ผ่านมา

‘เจี๊ยบ อมรัตน์’เดือดไล่‘จุลพงศ์’ลาออกเหตุสร้างความอับอาย‘พรรคประชาชน’

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 กันยายน โดยเจี๊ยบ อมรัตน์ ได้แชร์ข่าวเกี่ยวกับนายจุลพงศ์ที่แอบไปขอโทษนายเนวินแบบเงียบๆ โดยไม่แจ้งให้พรรคทราบ และยังบริจาคเงิน 10,000 บาทให้โรงพยาบาลบุรีรัมย์เพื่อแสดงความรับผิดชอบ แต่สิ่งที่ทำให้เธอเดือดดาลคือ เนื้อหาในหนังสือขอโทษที่โยนความผิดไปให้ทีมงานพรรค โดยอ้างว่าตัวเองเป็น ส.ส. ใหม่ ไม่รู้เรื่อง และแค่ทำตามบทที่พรรคจัดสรรให้เท่านั้น ซึ่งเจี๊ยบมองว่านี่คือการขี้ขลาดและตาขาวที่สร้างความอับอายให้กับพรรคประชาชน

เจี๊ยบ อมรัตน์ ยังชี้แจงว่าข้อมูลที่ทีมงานเตรียมให้ ส.ส. นั้นเป็นเพียงข้อมูลสนับสนุนพื้นฐาน เช่น ลำดับเหตุการณ์ วันเวลา และความคืบหน้า ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง (fact) ที่ช่วยทุ่นแรงในการอภิปราย แต่ ส.ส. แต่ละคนต้องเลือกประเด็นเอง นำข้อมูลมาประมวลผลด้วยความคิดและดุลยพินิจส่วนตัว รวมถึงเลือกน้ำหนักในการอภิปรายด้วย นายจุลพงศ์เลือกที่จะอภิปรายเรื่องเขากระโดงด้วยข้อมูลที่ต่อมาพิสูจน์ว่าเป็นเท็จ และหลังจากนั้นยังกล้าอภิปรายซ้ำด้วยข้อมูลเดิม จนถูกโต้เถียงกลางสภา สร้างความเสียหายให้กับภาพลักษณ์ของพรรคอย่างมาก

ความขี้ขลาดที่ไม่สมควรเกิดในนักการเมือง

จากประสบการณ์ของเจี๊ยบเอง ในยุคของนายประยุทธ์ จันทร์โอชา เธอและเพื่อน ส.ส. ถูกฟ้องคดีปิดปากหลายครั้ง แต่พวกเธอไม่เคยถอย ยืนยันในสิ่งที่พูดเพราะเชื่อว่าถูกต้อง ไม่ใช่กลับมาคลานเข่าแล้วเอาเรื่องเดิมมาพูดซ้ำ เธอเรียกร้องให้นายจุลพงศ์พิจารณาลาออกจาก ส.ส. เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของตัวเองและพรรคประชาชน ประเด็นนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงจริยธรรมของนักการเมืองเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับพรรคการเมืองใหม่ที่ต้องการสร้างฐานะในเวทีการเมืองไทย

การอภิปรายในสภาฯ ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการตรวจสอบการใช้อำนาจ แต่ถ้าข้อมูลไม่ถูกต้องและกลับกลายเป็นการขอโทษเงียบๆ โดยโยนความผิดให้ผู้อื่น มันจะทำลายความน่าเชื่อถือของทั้งตัวบุคคลและพรรคได้อย่างรวดเร็ว พรรคประชาชนที่เพิ่งก่อตั้งและมีแนวคิดก้าวหน้า ควรหลีกเลี่ยงเหตุการณ์แบบนี้เพื่อไม่ให้ถูกมองว่าไม่หนักแน่น ในมุมมองของผู้วิเคราะห์การเมือง หลายคนเห็นด้วยกับเจี๊ยบว่าการกระทำของนายจุลพงศ์คือจุดอ่อนที่อาจส่งผลต่อคะแนนนิยมของพรรคในอนาคต

  • การเลือกประเด็นอภิปราย: ส.ส. ต้องรับผิดชอบข้อมูลที่ตัวเองนำเสนอ
  • ความโปร่งใสในพรรค: ไม่ควรแอบทำเรื่องสำคัญโดยไม่แจ้งเพื่อนร่วมพรรค
  • จริยธรรมนักการเมือง: ยืนหยัดในความเชื่อ ไม่ใช่ถอยหนีเมื่อถูกฟ้อง

นอกจากนี้ เจี๊ยบยังโพสต์ภาพข้อความสีดำที่เน้นย้ำว่า ‘ยุคนายประยุทธ์ ดิฉันและเพื่อน ส.ส. ถูกฟ้องปิดปากกันไม่รู้กี่คดี ถ้ามันใช่ พูดกี่ครั้งก็ต้องยืนยัน ไม่ใช่คลานเข่าแล้วเอามาพูดซ้ำอีก’ ซึ่งกลายเป็นวลีที่ถูกแชร์อย่างกว้างขวาง สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่นักการเมืองและประชาชน

เหตุการณ์ ‘เจี๊ยบ อมรัตน์’เดือดไล่‘จุลพงศ์’ลาออกเหตุสร้างความอับอาย‘พรรคประชาชน’ นี้ยังเป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายในการรักษามาตรฐานจริยธรรมในวงการการเมืองไทย โดยเฉพาะกับ ส.ส. รุ่นใหม่ที่ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากฝ่ายตรงข้าม หากพรรคประชาชนไม่จัดการปัญหานี้ให้ดี อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในระยะยาว

ในฐานะนักการเมืองที่เคยผ่านสมรภูมิมา เจี๊ยบ อมรัตน์ ถือเป็นเสียงที่ดังและน่าเชื่อถือในการเรียกร้องความถูกต้อง สิ่งนี้กระตุ้นให้เราคิดถึงบทบาทของ ส.ส. แต่ละคนที่ต้องยึดมั่นในหลักการ หากคุณเป็นผู้สนใจการเมืองไทย ไม่ควรพลาดติดตามพัฒนาการของประเด็นนี้ เพราะมันอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในพรรคการเมืองได้

สุดท้ายแล้ว การเมืองที่ดีต้องเริ่มจากความกล้าหาญและความรับผิดชอบ หากนายจุลพงศ์เลือกที่จะลาออกตามที่เจี๊ยบเรียกร้อง มันจะเป็นการตัดสินใจที่ช่วยฟื้นฟูชื่อเสียงให้กับพรรคประชาชนได้

ที่มา – ‘เจี๊ยบ อมรัตน์’เดือดไล่‘จุลพงศ์’ลาออกเหตุสร้างความอับอาย‘พรรคประชาชน’

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *