ทางหลวงไล่จับหนุ่มติดป้ายทะเบียนปลอม ซื้อมาจากเฟซบุ๊ก 1,000 บาท
ในยุคที่เทคโนโลยีเชื่อมต่อทุกคนเข้าด้วยกัน การซื้อขายของออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติ แต่บางครั้งมันก็กลายเป็นกับดักที่อันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกี่ยวข้องกับเอกสารปลอม เช่น ทางหลวงไล่จับหนุ่มติดป้ายทะเบียนปลอม ซื้อมาจากเฟซบุ๊ก 1,000 บาท เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงและเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับผู้ที่คิดจะลัด shortcut ในชีวิตประจำวัน วันนี้เราจะมาดูรายละเอียดของคดีนี้กันแบบละเอียดยิบ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจและหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นกับตัวเอง
ทางหลวงไล่จับหนุ่มติดป้ายทะเบียนปลอม ซื้อมาจากเฟซบุ๊ก 1,000 บาท
เมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทางหลวงได้ไล่ล่าผู้ต้องหาคนหนึ่งที่ขับรถด้วยท่าทีผิดปกติ บนถนนหลวงหมายเลข 33 พื้นที่สระบุรี สุดท้ายก็จับกุมนายสกุลนาณ์ อายุ 43 ปี ได้ในข้อหาใช้เอกสารราชการปลอมและขับรถหลบหนีเจ้าหน้าที่ ของกลางที่พบคือรถยนต์คันหนึ่งพร้อมแผ่นป้ายทะเบียนปลอม 2 แผ่น บริเวณริมถนนสุวรรณศร หมู่ 6 ตำบลโพนทอง อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี
เรื่องราวเริ่มต้นจากเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นรถของนายสกุลนาณ์ขับผ่านมาด้วยท่าทีมีพิรุธ จึงส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อตรวจสอบ แต่ผู้ต้องหากลับไม่ยอมหยุดและเร่งเครื่องหลบหนีทันที เจ้าหน้าที่จึงต้องไล่ตามไปไกลถึงแยกคชสิทธิ์ ซึ่งเป็นจุดที่รถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟเกาะกลางถนน ทำให้รถพังยับและไม่สามารถหลบหนีต่อได้ สถานการณ์แบบนี้ไม่ใช่แค่ตื่นเต้นเหมือนในหนังแอคชั่น แต่เป็นความเสี่ยงที่แท้จริงต่อชีวิตและทรัพย์สินของทุกคนบนท้องถนน
เหตุผลที่นำไปสู่ทางหลวงไล่จับหนุ่มติดป้ายทะเบียนปลอม
จากการสอบสวน นายสกุลนาณ์รับสารภาพว่า เขาซื้อรถคันนี้มาจากเพื่อนในราคาเพียง 80,000 บาท โดยไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายอย่างถูกต้อง แต่ใช้สัญญาเงินกู้และเอารถค้ำประกันแทน ส่วนแผ่นป้ายทะเบียนปลอมนั้น เขาซื้อมาจากเพจบนเฟซบุ๊กในราคาแค่ 1,000 บาทเท่านั้น! มันฟังดูถูกและง่ายดาย แต่ผลที่ตามมาคือการถูกจับและต้องเผชิญคดีตามกฎหมาย เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ เขาจึงตกใจและขับรถหนีเพราะกลัวถูกจับได้ เบื้องต้น ผู้ต้องหาถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองแค เพื่อดำเนินคดีต่อไป
เหตุการณ์ ทางหลวงไล่จับหนุ่มติดป้ายทะเบียนปลอม ซื้อมาจากเฟซบุ๊ก 1,000 บาท นี้ สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการซื้อขายของผิดกฎหมายบนโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะเฟซบุ๊กที่เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับการค้าขายทุกอย่าง ตั้งแต่ของกินของใช้ไปจนถึงเอกสารปลอม ผู้ที่หลงกลมักคิดว่ามันช่วยประหยัดเงินและเวลา แต่จริงๆ แล้ว มันนำมาซึ่งความเสี่ยงมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นการถูกปรับ การยึดรถ หรือแม้กระทั่งติดคุก
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 การใช้เอกสารราชการปลอมมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ หากเกี่ยวข้องกับการขับขี่ยานพาหนะโดยไม่มีทะเบียนที่ถูกต้อง ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ยังมีโทษปรับเพิ่มอีกหลายหมื่นบาท ดังนั้น การติดป้ายปลอมไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย มันอาจทำให้คุณเสียมากกว่าที่คิด
ความเสี่ยงจากการซื้อป้ายทะเบียนปลอมทางออนไลน์
ทำไมคนถึงหันไปซื้อป้ายทะเบียนปลอมจากเฟซบุ๊ก? คำตอบคือความสะดวกและราคาถูก เพจเหล่านี้มักโฆษณาว่า ‘ทะเบียนสวย ราคาพิเศษ’ หรือ ‘ทะเบียนปลอมใช้แทนได้จริง’ แต่ลึกๆ แล้ว มันคือการหลอกลวงที่อาจนำไปสู่การถูกโกงเงินหรือถูกจับกุมแบบนายสกุลนาณ์ ในปีที่ผ่านมา มีเคสคล้ายๆ กันเกิดขึ้นทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่การตรวจสอบไม่เข้มงวดเท่ากรุงเทพฯ
- ความเสี่ยงด้านกฎหมาย: ถูกจับได้เมื่อตรวจสภาพรถหรือจุดตรวจ จนท.ทางหลวง
- ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย: รถที่ไม่มีทะเบียนจริงอาจไม่ผ่านการตรวจสภาพ ทำให้เกิดอุบัติเหตุง่าย
- ความเสี่ยงทางการเงิน: ซื้อปลอมถูกแต่เสียค่าปรับแพงกว่าเยอะ
เพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้ กรมการขนส่งทางบกแนะนำให้ประชาชนทำทะเบียนรถให้ถูกต้อง โดยสามารถยื่นเรื่องได้ที่สำนักงานขนส่งทุกจังหวัด อย่าหลงเชื่อโฆษณาออนไลน์ที่ดูน่าสงสัย หากพบเพจขายของผิดกฎหมาย รายงานได้ที่เพจทางการของตำรวจไซเบอร์
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ทางหลวงยังเพิ่มมาตรการตรวจสอบรถบนถนนสายหลักมากขึ้น โดยใช้กล้อง CCTV และทีมไล่ล่าแบบมืออาชีพ เหตุการณ์ไล่จับครั้งนี้เป็นตัวอย่างที่ดีว่า ไม่มีใครหลุดรอดจากกฎหมายได้ง่ายๆ
ในมุมมองของผม เหตุการณ์ ทางหลวงไล่จับหนุ่มติดป้ายทะเบียนปลอม ซื้อมาจากเฟซบุ๊ก 1,000 บาท สอนให้เรารู้ว่า การประหยัดเล็กน้อยอาจนำมาซึ่งปัญหาใหญ่หลวง ควรเลือกทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อความสงบสุขในระยะยาว หากคุณมีรถยนต์ อย่าลืมตรวจสอบทะเบียนให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง และหากเจอเพจขายของแปลกๆ บนเฟซบุ๊ก ก็อย่าคลิกซื้อเด็ดขาด! สุดท้ายนี้ ผมอยากชวนทุกคนแชร์ประสบการณ์เรื่องกฎจราจรในคอมเมนต์ เพื่อให้เราระวังตัวกันมากขึ้น
ที่มา – ทางหลวงไล่จับหนุ่มติดป้ายทะเบียนปลอม ซื้อมาจากเฟซบุ๊ก 1,000 บาท