อัครเดชหนุนร่างรัฐธรรมนูญภูมิใจไทย ย้ำไม่แก้หมวด 1-2
เมื่อวันที่ 14 ต.ค. นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อภิปรายการแก้ไขร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมว่าเปรียบเหมือนกับสุภาษิตไทยโบราณที่ว่า “สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม อีกคนตาแหลมคม มองเห็นดาวอยู่พราวพราย“ เรื่องนี้อยู่ที่มุมมองและทัศนคติในการมองเรื่องเดียวกัน คนแรกอาจจะมองว่ารัฐธรรมนูญไม่ใช่ปัญหาในการบริหารประเทศ หรือไม่ใช่ปัญหาในการพัฒนาประเทศ แต่อยู่ที่คน คือเราผ่านรัฐธรรมนูญมาหลายฉบับ ไม่ว่าจะเป็นปี 2540 2550 หรือปี2560 แต่ประเทศเราก็ไม่ได้ดีขึ้นถึงแม้ว่าเราจะเปลี่ยนรัฐธรรมนูญมาหลายฉบับ ทั้งที่รัฐธรรมนูญที่เราคิดว่าเป็นประชาธิปไตยมากที่สุดปี 2540 ที่ถือกำเนิดเกิดขึ้นขององค์กรอิสระหรือองค์กรตามรัฐธรรมนูญมากมาย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ประเทศเราดีขึ้น แต่เรายังคงวนเวียนกับนะการบริหารประเทศที่มีการปฏิวัติ แล้วกลับมาเลือกตั้ง วนเวียนกันไปแบบนี้
นายอัครเดช กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนได้หาเสียงไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อนสมาชิกพรรครวมไทนสร้างชาติหลายคนก็ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ทั้งนี้ปัจจุบันนี้เงื่อนไขการเมืองของประเทศมันมาอยู่จุดนี้ จุดที่จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้ และพวกเราก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะกระทำไม่ได้เลย การแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถทำได้ ทั้งนี้ตนมีเงื่อนไขของการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ 2 ประการที่จะพิจารณาว่าจะโหวตรับหลักการร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมแต่ละฉบับทั้ง 3 ฉบับหรือไม่ โดยเงื่อนไขประการแรก คือการไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 ของรัฐธรรมนูญ อันนี้เป็นหลักการสำคัญที่ตนเองและสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติหลายคนได้ยืนยันมาโดยตลอดว่าหมวด 1 และหมวด 2 ของรัฐธรรมนูญเราไม่ต้องการให้มีการแก้ไข หากมีการแก้ไขเราก็จะไม่รับหลักการ
”ผมอยากจะรอฟังการชี้แจงของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนว่า ท่านมีหลักประกันอะไรที่จะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยที่จะไม่ไปแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 แต่ผมอ่านร่างฉบับของพรรคภูมิใจไทย มีการกำหนดขัดเจนว่ารัฐธรรมนูญที่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันทีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ รวมถึงมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติมหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 จะกระทำไม่ได้ ซึ่งนี่คือความชัดเจนของร่างฉบับพรรคภูมิใจไทย“ นายอัครเดช กล่าว
นายอัครเดช กล่าวต่อว่า ตนขอสนับสนุนให้ใช้ร่างรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมฉบับของพรรคภูมิใจไทยเป็นร่างหลักในการพิจารณา ด้วยเหตุผลเพราะรัฐสภาจะต้องเคารพคำสั่ง หรือคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะต้องยึดหลักของศาลรัฐธรรมนูญในการพิจารณาอย่างเคร่งครัด.
อัครเดชหนุนร่างรัฐธรรมนูญภูมิใจไทย ย้ำไม่แก้หมวด 1-2
จากกรณีที่นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม โดยสนับสนุนร่างของพรรคภูมิใจไทยนั้น ประเด็นสำคัญอยู่ที่การเน้นย้ำว่าจะต้องไม่มีการแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 ของรัฐธรรมนูญ
นายอัครเดชได้กล่าวถึงเงื่อนไขสำคัญในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมทั้ง 3 ฉบับ โดยเน้นย้ำว่าเงื่อนไขประการแรกคือการไม่แตะต้องหมวด 1 และหมวด 2 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นหลักการที่ตนเองและสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติหลายคนยึดมั่นมาโดยตลอด หากมีการแก้ไขในส่วนนี้ จะไม่รับหลักการร่างดังกล่าว
ทำไมต้องร่างรัฐธรรมนูญภูมิใจไทย?
เหตุผลที่นายอัครเดชสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมฉบับของพรรคภูมิใจไทยนั้น เนื่องจากรัฐสภาจะต้องเคารพคำสั่งหรือคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และยึดหลักของศาลรัฐธรรมนูญในการพิจารณาอย่างเคร่งครัด ร่างของพรรคภูมิใจไทยมีความชัดเจนในประเด็นการไม่แก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง
การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนและมีความสำคัญต่ออนาคตของประเทศ การพิจารณาอย่างรอบคอบและยึดมั่นในหลักการจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
ความเห็นของนายอัครเดชสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการรักษาหลักการพื้นฐานของรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ การแก้ไขรัฐธรรมนูญควรเป็นไปเพื่อปรับปรุงและพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า แต่ต้องไม่กระทบต่อความมั่นคงและความเป็นปึกแผ่นของชาติ
ดังนั้น การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงต้องคำนึงถึงผลกระทบในทุกด้าน และต้องเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนของสังคมได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น เพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างแท้จริง อย่าลืมติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คุณได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน
ที่มา – ‘อัครเดช’หนุนร่างรัฐธรรมนูญ‘ภูมิใจไทย’ย้ำไม่แก้หมวด 1-2